ครั้งที่ 8
วันพฤหัสบดี ที่ 3 ตุลาคม 2562
สรุปความรู้ 💦
วันนี้เรียนหัวข้อ ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอวิจัยของกลุ่มตัวเอง
กลุ่มดิฉัน วิจัยเรื่อง การส่งเสริมความเข้าใจภาษาของเด็กปฐมวัยโดยผู้ปกครองใช้ชุดกิจกรรม
“ เล่นกับลูกปลูกกภาษา ” ของคุณอารีย์ คำสังฆะ ตุลาคม
2554
🌼ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหา🌼
ภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงอารยธรรมของมนุษย์ที่บ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นชนเผ่าและความเป็นชนชาติในดีภาษาเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้รอบตัวของเด็กตั้งแต่เกิดเป็นสื่อการเรียนให้ได้ความรู้ประสบการณ์
เด็กสามารถใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ในยุคสาระสนเทศผ่านภาษาการส่งเสริมความสามารถทางภาษาให้กับเด็กสามารถทำได้หลายวิธีเช่นการเล่านิทานการเล่นนิ้วมือการเล่นทางปัญญาร้องเพลงหรือแมคการสนทนาของบุคคลรอบข้าง
หัวใจสำคัญของการเรียนรู้ภาษาของเด็กทุกวัยการที่ผู้ขอมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้การเรียนรู้ภาษาเกิดได้ขึ้นทุกทีแล้วควรมีความร่วมมือกับพ่อแม่ผู้ปกครองร่วมพัฒนาเด็ก
อย่างเต็มศักยภาพ
🌼วัตถุประสงค์ของการวิจัย🌼
1.เพื่อศึกษาพัฒนาการทางด้านภาษาด้านความเข้าใจภาษาของเด็กปฐมวัย
โดยผู้ปกครองใช้ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลุกภาษา
2.เพื่อเปรียบเทียบความเข้าใจภาษาของเด็กประถมวัยก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลุกภาษา
🌼ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ🌼
เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมความเข้าใจภาษาของเด็กโดยผู้ปกครองจะได้เห็นความสำคัญของการส่งเสริมพัฒนาการทางวันสาและเป็นแนวทางสำหรับครูในการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเพื่อร่วมกันส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของเด็กต่อไป
🌺ขอบเขตการวิจัย🌺
🌼ประชากรที่ใช้ในการวิจัย🌼
พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดู เด็กชายและหญิง
อายุ4-5ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาล 1 ภาคเรียนที่
2 ปีการศึกษา 2553 โรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน สำนักงานเขตมินบุรี สังกัดกรุงเทพ จำนวน
2 ห้องเรียน นักเรียน 50 คน
🌼กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย🌼
พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดู เด็กชายและหญิง
อายุ4-5ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาล 1 ภาคเรียนที่
2 ปีการศึกษา 2553 โรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน สำนักงานเขตมินบุรี สังกัดกรุงเทพ จำนวน
2 ห้องเรียน นักเรียน 50 คน ที่ได้รับจากการสุ่มอย่างง่ายโดยจับฉลากมา 1 ห้องเรียน
🌼ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย🌼
ตัวแปรอิสระ : ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลุกภาษา
ตัวแปรตาม : ความเข้าใจภาษา
🌼นิยามศัพท์เฉพาะ🌼
👉1. เด็กปฐมวัย หมายถึง นักเรียนชาย - หญิง
อายุระหว่าง 4-5 ปี ที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2553 โรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน สำนักงานเขตมินบุรีสังกัดกรุงเทพมหานคร
👉2.
ผู้ปกครองหมายถึงพ่อแม่ญาติพี่น้องหรือบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดเด็กให้การอุปการะเลี้ยงดูให้ความรักความใส่ใจตลอดจนให้การศึกษาแก่เด็ก
👉3.
ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลุกภาษาหมายถึงเอกสารให้ความรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อพัฒนาความรู้ของเด็กปฐมวัย
ซึ่งจะประกอบไปด้วยเอกสารการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองแบบบันทึกพฤติกรรมเด็กในระหว่างการทำกิจกรรมทั้งนี้เด็กจะได้เรียนรู้ภาษาการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ปกครองผ่านการทำกิจกรรมต่างๆในชุดกิจกรรม
8 ชุด ประกอบไปด้วย
ชุดที่ 1 นิทานหรรษา.
ชุดที่2 ปริศนาฮาเฮ
ชุดที่ 3 นิ้วมือหรรษา
ชุดที่ 4 อักษรซ่อนหา
ชุดที่ 5 นิทานย้อนกลับ
ชุดที่6 ภาษาครัว
ชุดที่ 7 นักสืบน้อย
ชุดที่8 จ๊ะเอ๋ชื่อใครเอ่ย
🌼สมมุติฐานการวิจัย🌼
เด็กที่ได้รับการจัดกิจกรรมชุดด้วยชุดฝึกกิจกรรมเล่นกับลูกปลุกภาษาโดยผู้ปกครองมีความเข้าใจภาษาหลังการทำกิจกรรมสูงกว่าก่อนการทำกิจกรรม
🌼วิธีการดำเนินการวิจัย🌼
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูของเด็กชายหญิงอายุ
4-5ปี ที่กำลังศึกษา อยู่ในระดับชั้นอนุบาล 1 ปีการศึกค 2553
โรงเรียนสุเหร่ากองทรายดิน สำนักงานเขตมินบุรี สังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 25 คน ที่ได้จากการสุ่มอย่างง่ายโดยจับฉลากมา
1 ห้องเรียน
🌼เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย🌼
1.ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลุกภาษา
2.แบบวัดความเข้าใจทางภาษาของเด็ก
3.แบบวิเคราะห์ความเข้าใจทางภาษาของเด็ก
🌼วิธีการดำเนินการ🌼
1.ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลุกภาษาซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อพัฒนาความเข้าใจทางภาษาของเด็กประถมวัยจำนวน
8 ชุดสร้างเครื่องมือตามลำดับขั้นต่อไปนี้
1.1
ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแนวทางทฤษฎีหลักการสอนและหลักการจัดกิจกรรม
1.2
ศึกษาเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความสามารถทางภาษา
1.3
สร้างชุดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและกิจกรรมที่ปกครองร่วมกับเด็ก
1.4
นำชุดกิจกรรมที่สร้างขึ้นเสนอผู้เชี่ยวชาญตรวจพิจารณาตามความเหมาะสมของเนื้อหาและ
กิจกรรมเพื่อปรับปรุงแก้ไข
1.5
นำชุดกิจกรรมที่ปรับปรุงแก้ไขไปทดลองใช้กับผู้ปกครองและเด็ก
1.6 นำชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลุกภาษาไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง
2.แบบแผนการทดลองและวิธีการทดลอง
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งการทดลอง
ซึ่งมีแบบแผนการทดลองดังนี้
2.1
จัดข้อมูลพื้นฐานความเข้าใจทำภาษาของกลุ่มตัวอย่าง 25 คนก่อนใช้ชุดกิจกรรม
2.2 ประชุมนิเทศผู้ปกครองเพื่ออธิบายลักษณะโดยร่วมของชุดกิจกรรม
2.3
ผู้วิจัยแจกชุดกิจกรรมให้เด็กในวันจันทร์เพื่อให้เด็กและผู้ปกครองนำไปทำการทดลองร่วมกัน
ตลอดทั้งสัปดาห์
2.4
ผู้วิจัยและผู้ช่วยวิจัยสังเกตุและจดบันทึกพฤติกรรมพร้อมคำพูดของเด็กขณะที่ผู้วิจัยและเด็ก
กลุ่มตัวอย่างจำนวน
25 คนทำกิจกรรม
2.5
จัดเก็บข้อมูลความเข้าใจทางภาษาของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 25
คนหลังการใช้ชุดกิจกรรมเล่น
กับลูกปลุกภาษา
2.6
นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ตามวิธีทางสถิติเพื่อสรุปผลการวิจัย
🌼การเก็บรวบรวมข้อมูล🌼
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยที่ผู้ปกครองมีบทบาทการส่งเสริมความเข้าใจภาษารองรับเด็กประถมวัยซึ่งมีการเก็บข้อมูล
1.
เก็บรวบรวมข้อมูลของหัวใจทางภาษาก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลุกภาษาด้วยแบบวัดความเข้าใจของภาษา
2.
เก็บรวบรวมข้อมูลการทำชุดกิจกรรมของผู้ปกครองจากส่วนเรื่องเล่าจากบ้านในชุดกิจกรรม
3. เก็บรวบรวมข้อมูลจากสังเกตจดบันทึกพฤติกรรมคำพูดของเด็กโดยผู้วิจัยและผู้ช่วยวิจัยนำมาตรวจสอบ
4.
รวบรวมข้อมูลผลการวิเคราะห์ทางสถิติเขียนรายงานการวิจัย
🌺สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์🌺
🌼สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ความเข้าใจทางภาษา🌼
1. การคำนวณหาค่าความยากง่าย
2. การคำนวณหาค่าอำนาจจำแนก
3. การคำนวณหาค่าความเชื่อมั่น
4. หาดัชนีความสอดคล้องของเนื้อหาและกิจกรรม
🌼สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล🌼
1. การหาค่าเฉลี่ยของคะแนน
2. การหาค่า เบี่ยงเบนมาตรฐาน
🌼สถิติในการทดลองสมมุติฐาน🌼
เปรียบเทียบคะแนนความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการทำการทดลองโดยคำนวณจากสูตร
t-test
Dependele
🌼สรุปผลการวิจัย🌼
1.เด็กปฐมวัย
ที่ได้รับการจัดกิจกรรมส่งเสริมความเข้าใจภาษาโดยผู้ปกครองใช้ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลุกภาษามีพัฒนาความเข้าใจทางด้านภาษาโดยรวมสูงขึ้นร้อยละ
53 .72 ของความสามารถพื้นฐานเดิม
2.เด็กปฐมวัย
ที่ได้รับการจัดกิจกรรมส่งเสริมความเข้าใจภาษาโดยผู้ปกครองใช้ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลุกภาษามีความเข้าใจภาษาโดยรวมและจำแนกรายด้านคือการใช้คำอย่างมีจุดมุ่งหมายและการใช้ประโยชน์เพื่อสื่อความหมายสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.01
🌼ข้อเสนอแนะ🌼
1. การให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมโดยการหาความรู้จากชุดกิจกรรมทำกิจกรรมร่วมกับเด็กสังเกตการเรียนรู้และบันทึกพฤติกรรมของเด็กเป็นเพียงกิจกรรมหนึ่งผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการส่งเสริม
พัฒนาการของเด็กเท่านั้น
2. ครูที่สนใจใช้ชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กควรตั้งวัตถุประสงค์ให้ขอบคุงและไม่ควรใช้ชุดกิจกรรมทุกวันในหนึ่งสัปดาห์ควรใช้ชุดกิจกรรมเพียง
1-2 ครั้ง
ตามความพร้อมของผู้ปกครองเพื่อให้ผู้ปกครองมีเวลาในการศึกษาเอกสารทำความเข้าใจและปฏิบัติกิจกรรมอย่างเต็มที่และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น